เปิดตำนาน! ทำไมต้อง “แขวนถุงเท้า” ในคืน “คริสต์มาสอีฟ” แท้จริงแล้วมันมีจุดกำเนิด ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น!?

ถือเป็นอีกหนึ่งความเชื่อและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน กับการ “แขวนถุงเท้า” ไว้หน้าเตาผิง ในคืนก่อนวันคริสต์มาส หรือ “คริสต์มาสอีฟ” ของเด็กๆในแถบยุโรป รวมถึงเด็กๆทั่วโลก ที่พวกเขาเชื่อว่า “ซานตาคลอส” จะปีนลงมาจากปล่องไฟ แล้วนำของขวัญที่เด็กๆ อยากได้มาใส่ไว้ในถุงเท้า และเมื่อรุ่งเช้าในวันคริสต์มาส เด็กๆ ก็จะรีบตื่นขึ้นมา เพื่อดูว่าในถุงเท้าที่ตนเองห้อยนั้นมีของขวัญหรือเปล่า ??? แต่อยากรู้ไหมว่า ความเชื่อเรื่องการห้อยถุงเท้า ในคืนวันคริสต์มาสอีฟนั้น มันมีที่มาได้อย่างไร 

ย้อนกลับไป ในช่วงสมัยของ “นักบุญนิโคลัส” หรือ “เซนต์นิโคลัส” นักบุญที่มีชื่อเสียงในศาสนาคริสต์ ตามตำนานกล่าวว่า นักบุญนิโคลัส มีน้องสาว 3 คน (บางตำราก็กล่าวว่า หญิง 3 คนนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านนักบุญนิโคลัส) โดยหญิงทั้ง 3 มีฐานะยากจน กระทั่งคิดจะขายตัวเป็นโสเภณี เรื่องดังกล่าวทราบไปถึงนักบุญนิโคลัส ท่านจึงคิดหาทางช่วยเหลือหญิงทั้ง 3 ซึ่งในคืนวันคริสมาสอีฟ ท่านนักบุญได้แอบไปที่บ้านของหญิงทั้ง 3 คน จากนั้นท่านนักบุญก็แอบปีนขึ้นไปบนปล่องไฟ พร้อมกับหย่อนเหรียญทองจำนวน 3 เหรียญ ลงไปในปล่องไฟ ทว่าเหรียญทองทั้ง 3 เหรียญนั้น ไม่ได้ตกลงไปอยู่ที่บริเวณหน้าเตาไฟ แต่กลับร่วงลงไปอยู่ในถุงเท้าที่หญิงทั้ง 3 ตากเอาไว้หน้าเตาไฟ พอรุ่งเช้า เมื่อหญิงทั้ง 3 ตื่นขึ้นมา ก็พบว่ามีเหรียญทองในถุงเท้า ทำให้พวกเธอดีใจมาก และที่ดีไปกว่านั้นคือพวกเธอไม่ต้องไปเป็นโสเภณี

จากตำนานการกระทำความดีของท่านนักบุญนิโคลัส ทำให้กลายเป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ที่ให้เด็กๆ “แขวนถุงเท้า” เพื่อรับของขวัญ ซึ่งเด็กๆทุกคนจะต้องทำตัวเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่ และก็จะได้ของขวัญจากซานต้า นั่นเอง !! น้องๆหลายคนอย่าลืมเอาถุงเท้านักเรียน หรือถุงเท้าอะไรก็ได้มาแขวนในคืนวันคริสต์มาสนะค้าที่สำคัญอย่าลืมเป็นเด็กดีของพ่อแม่ในทุกๆวันด้วยน้า